Tuesday, August 14, 2012

รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 12 (3)


รักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 12 (ต่อ)
     
       วิกผมสวมอยู่กับหุ่น แดงนั่งอยู่บนเตียง ธีระเดินเข้ามาจับมือพี่สาว
       “พี่แดงอย่าท้อนะ ยังไงก็ต้องสู้” ธีระให้กำลังใจ
       “พี่ไม่ท้อหรอก พี่จะสู้ให้ถึงที่สุด พี่จะต้องอยู่ดูไตรตั้นจนโตให้ได้” แดงบอก
       “แล้วนายล่ะเป็นไงบ้าง พักนี้ไม่เห็นข้าวตูเลย” กบถาม
       “ใช่ โทรไปก็ไม่เห็นโทรกลับ” แดงบอก
       ธีระนิ่งไปเล็กน้อยก่อนตอบ
       “เค้าเลิกกับผมแล้วครับ”
       “จริงหรือธี เรื่องอะไรกัน” แดงตกใจ
       “อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะแม่อีก” กบถาม
       “ไม่ใช่แม่หรอกครับ เป็นเพราะผมเองมากกว่าที่เป็นฝ่ายรักและห่วงใยแม่มากกว่าเค้า”
       “ตูเค้ารู้สึกอย่างงั้นหรือ” แดงถาม
       “ครับ ถูกของเค้า ผมคงรักแม่มากกว่าอะไรทั้งหมด”
       “ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับแกอีกแล้ว พี่สงสารแกจริงๆ” แดงว่า
       “ว่าไม่ได้ ธีเค้าเลือกที่จะเป็นลูกที่รักแม่มากกว่าแฟน” กบบอก
       “แล้วพี่กบล่ะครับ รักใครมากกว่ากัน” ธีระถามขึ้น
       กบมองหน้าแดง “พี่หรือ ถ้าพี่อยู่กับเมียพี่ก็ต้องบอกว่ารักเมีย มากกว่าแม่แต่เวลาอยู่กับแม่พี่ก็บอกแม่ว่ารักแม่มากกว่าเมีย อย่าว่าพี่นะแดง”
       “วันนี้แดงไม่ว่าใครอีกต่อไปแล้ว เพราะแดงไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่รักใครได้อีกนานแค่ไหน” แดงบอก
       “อย่าคิดมากน่ะพี่แดง พี่แดงต้องหาย ใช่มั้ยพี่กบ”
       “ใช่ พี่เชื่อว่าแดงต้องหาย” กบพูดหนักแน่น
       กบและธีระหอมแก้มแดงคนละข้าง
     
       หนูดีบีบเครื่องวัดความดันให้จินดา โดยที่มีม่านปิดล้อมรอบเตียงอยู่
       “ความดันเป็นไงคะ” จินดาถาม
       “ดีค่ะคุณป้า” หนูดีหยิบปรอทขึ้นมา “คุณป้าขาวัดไข้หน่อยค่ะ”
       หนูดีเสียบปรอทใส่ปากจินดาแล้วเดินไปปลายเตียง
       “คุณป้ายกขาหน่อยค่ะ”
       หนูดีดึงถาดปัสสาวะออกมาแล้วเดินกลับมาดึงปรอทออกมาดู
       “มีไข้มั้ยคะ” จินดาถาม
       “ไม่มีค่ะ” หนูดีตอบ
       หนูดีรูดม่านที่ปิดเตียงคนไข้ออกมา ธีระนั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย
       “เรียบร้อยแล้วค่ะ” หนูดีหันไปถามจินดา “บ่ายนี้คุณป้าอยากทานอะไรพิเศษมั้ยคะ เดี๋ยวหนูจะออกไปทานข้าวข้างนอก หนูจะซื้อมาฝาก”
       “ไม่ล่ะจ้ะ หนูดี ขอบใจนะลูก”
       “ค่ะ”
       หนูดีเดินออกไป ธีระมองตาม
       “พยาบาลคนนี้ดีจังดูแลแม่ดี๊ดี ลูกมีตังค์มั้ย ขอตังค์แม่ซักห้าร้อยแม่จะให้ทิปเค้า” จินดาบอก
       “เดี๋ยวผมให้เองก็ได้ครับ” ธีระบอก
       “เห็นหนูดีบอกว่าพรุ่งนี้หมอจะดูแม่อีกทีถ้าไม่มีอะไรแล้วก็จะให้กลับบ้านได้”
       “แต่ผมอยากให้แม่อยู่อีกซักพักนะครับ ให้หมอเช็คให้แน่นอนก่อน”
       “แต่แม่อยากกลับบ้านแล้วนะลูก” จินดาบอก
       “แต่ถ้ากลับไปใครจะดูแม่ล่ะครับ อรก็ไม่อยู่แล้วด้วย”
       “ไม่เป็นไร แม่ไปอยู่บ้านยัยแดงเค้าก็ได้”
       “อย่าเลยครับ พี่แดงก็มีงานทั้งวันไม่มีเวลาดูแม่หรอก”
       “แต่ที่จริงแม่ก็อยู่คนเดียวได้นะ ให้ยัยช้อยยัยภายัยใหญ่มาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้”
       “พวกป้าช้อยเค้าคงมาอยู่กับแม่ไม่ได้ตลอดหรอกครับ ผมจะพยายามหาคนมาอยู่กับแม่ดีกว่า”
       “ก็ตามใจลูก”
       “แม่หิวรึยัง” ธีระถาม
       “ยังหรอกลูก” จินดาถอนใจ “ลูกเลยต้องมาปวดหัวกับเรื่องของแม่”
       “ไม่หรอกครับ เป็นหน้าที่ผมที่ผมต้องดูแลแม่ต่างหาก”
       จินดาจับมือธีระแล้วก็หอมมือลูกชาย
     
       ธีระเดินออกมาจากห้อง เขาเจอหนูดีกำลังเข็นรถยาออกมาจากห้อง ธีระเดินสวนแล้วก็ชะงัก
       “ขอโทษครับ คุณพยาบาล ผมมีเรื่องจะถามหน่อย”
       “อะไรหรือคะ” หนูดีถาม
       “พอจะมีใครที่รับดูแลคนแก่ตามบ้านบ้างมั้ยครับ”
       “ที่นี่ไม่มีหรอกค่ะ ต้องลองติดต่อตามศูนย์ดูแลคนชรานะคะ”
       “ครับ ขอบคุณมาก แต่ถ้ามีใครสนใจฝากบอกให้หน่อยนะครับ”
       “ได้ค่ะ”
       ธีระเดินออกไป หนูดีมองตาม แล้วพยาบาลรุ่นพี่ก็เรียก
       “หนูดี”
       “ขา” หนูดีขานรับ
       “ช่วยพี่ดูคนไข้ห้องนี้หน่อยจ้ะ”
       “ค่ะ”
       หนูดีเดินตามพยาบาลรุ่นพี่เข้าไปที่ห้องคนไข้
     
       หนูดีถือถุงหมุสะเต๊ะเดินมาตามทางเดินหน้าห้องเช่าของเธอ แล้วก็มาหยุดหน้าห้องที่มีป้ายรับตัดเย็บเสื้อผ้าติดอยู่หน้าห้อง หนูดีเปิดประตูเข้าไป
     
       หนูดีเปิดประตูเข้ามา แม่ของหนูดีกำลังเย็บชุดกระโปรงอยู่
       “กลับมาแล้วหรือลูก”
       “จ้ะแม่ หนูซื้อหมูสะเต๊ะมาฝากแม่ด้วย มากินข้าวกันเถอะแม่ หนูหิว” หนูดีเดินไปแกะหมูสะเต๊ะใส่จาน
       “ลูกกินก่อนเถอะ แม่อุ่นขาหมูให้แล้ว”
       “มากินพร้อมกันเถอะแม่”
       “ไม่ได้ลูก เดี๋ยวสองทุ่มเค้าจะมาเอาชุดนี้แล้ว”
       เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนจักรดังขึ้น แม่หยิบมากดรับ
       “ฮัลโหล .. ค่ะ... ค่ะ เดือนหน้าใช่มั้ยคะ”
       หนูดีมอง
       “ค่ะค่ะ แล้วชั้นจะเอาเงินไปให้นะคะ ค่ะ” แม่กดวางสาย
       “ใครหรือแม่”
       “เสี่ยวิทย์น่ะสิ แกโทรมาถามเรื่องเงินที่เราไปกู้แก แกบอกให้เวลาแค่เดือนหน้า ถ้าไม่มีเงินไปคืน แกจะเอาเรื่อง”
       “แล้วแม่จะหาเงินทันหรือ”
       “ทันลูก แม่คุยกับลุงเชียรแล้ว เค้าจะให้แม่ยืมเงินไปใช้หนี้ก่อน”
       “หนูอยากจะช่วยแม่จังเลย แต่ลำพังเงินเดือนหนูก็ไม่ได้มาก” หนูดีบอก
       “ไม่ต้องหรอกลูก เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่แม่ แม่จัดการเองได้”
       แม่หันไปเย็บผ้าต่อ หนูดีมองแม่แล้วพึมพัมกับตัวเอง
       “หรือเราควรจะหางานพิเศษช่วยแม่อีกแรง”
     
       เช้าวันใหม่ หมอวิชิตตรวจอาการของจินดา
       “หายใจลึกๆครับคุณป้า ดีครับ มองบนซิครับ” หมอวิชิตมอง “โอเค อาการอัมพฤกษ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานคงหายสนิท”
       “กลับบ้านได้แล้วใช่มั้ยคะ” จินดาถาม
       “ได้ครับ ถ้าอยากจะกลับก็กลับได้แล้ว” หมอวิชิตหันมาบอกธีระ “แต่หมออยากให้มีคนอยู่ดูแลใกล้ชิดคุณป้าหน่อยนะครับเพราะแกอาจจะยังทำอะไรด้วยตัวเองไม่สะดวก”
       “ครับ ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ”
       ธีระยกมือไหว้ หมอวิชิตเดินออกจากห้อง พยาบาลเดินตามไป
       “จันทร์อังคารชั้นอยู่เฝ้าเวรเอง” ช้อยอาสา
       “งั้นชั้นก็ต้องพุธพฤหัส” ใหญ่บอก
       “ส่วนชั้นก็เป็นศุกร์เสาร์” ภาพูด
       “แล้ววันอาทิตย์ล่ะ ใครจะอยู่” ช้อยถาม
       “วันอาทิตย์ไม่ต้องครับ ผมกับพี่แดงจะสลับกันมาอยู่กับแม่” ธีระบอก
       “แดงจะดูได้หรือ ตัวเค้าเองก็แย่แล้วนะ” ช้อยหลุดปาก
       จินดาถามทันที “แดงเป็นอะไร”
       ใหญ่กับภารีบติง “พี่ช้อย”
       “เปล่าจ้ะ ชั้นหมายถึงงานที่ร้านเค้าเยอะ เค้าจะมีเวลาดูหรือ” ช้อยพูดแก้
       “ไม่เป็นไรครับ สรุปว่าวันอาทิตย์ผมอยู่ดูเอง” ธีระบอก
       “ว่าแต่ใครจะเป็นคนเจาะน้ำตาล ชั้นกลัวเข็มจัง” ใหญ่ว่า
       “ชั้นก็ตาไม่ดีนะ เจาะผิดเจาะถูกจะยุ่ง” ภาออกตัว
       “เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการเองครับ” ธีระบอกแม่ “แม่รออยู่นี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายเงินข้างล่างก่อน”
       “ไป ไปกัปตันไม่ต้องห่วง พวกป้าดูเอง” ใหญ่บอก
       ธีระเดินออกไปจากห้อง
     
       หนูดีนั่งทำงานพร้อมกับคอยชะเง้อมองธีระ ธีระเดินเลี้ยวออกมาแล้วเดินผ่านไป หนูดีรีบวิ่งตาม
       “คุณธีระคะ”
       ธีระชะงัก “ว่าไงครับ”
       “ที่เมื่อวานคุณถามหาคนดูแลคุณป้า ได้คนรึยังคะ”
       “ยังเลยครับ มีคนจะสมัครหรือครับ”
       “ค่ะ”
       “ใครหรือครับ”
       “หนูดีเองค่ะ”
       “งั้นก็ดีสิครับ คุณแม่คงดีใจที่ได้คุณไปดูแล”
       “แต่ว่าหนูดีจะทำได้เฉพาะหลังเลิกงานแล้วก็วันหยุดวันอาทิตย์ นะคะ”
       “ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
       “แล้วหนูดีก็เพิ่งทำงานได้ไม่ถึงปีนะคะ อาจจะไม่เก่งมาก”
       “ไม่มีปัญหาครับ ขอแค่มีใครที่พอจะมีความรู้ดูแลแกก็พอแล้ว”
       หนูดียกมือไหว้ “ขอบคุณนะคะ”
       “ผมสิครับ ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ ที่คุณจะช่วยดูแลคุณแม่”
       ธีระยิ้มให้แล้วเดินออกไป หนูดีมองตามอย่างชื่นชม ธีระหันมามอง หนูดีส่งยิ้มให้
     
       ที่บ้านจินดา จินดานั่งอยู่บนเตียงหน้าทีวี ธีระเอายามาส่งให้แม่ แล้วป้อนน้ำให้แม่ดื่ม
       “พาแม่ไปฉี่ทีลูก” จินดาบอก
       “ไปครับ”
       ธีระประคองแม่ให้ลุกขึ้น จินดาก้าวเดินไปสองก้าวก็ปัสสาวะราดออกมา
       “แม่ขอโทษลูก แม่อั้นไม่อยู่”
       “ไม่เป็นไรครับ ไปห้องน้ำก่อน”
       ธีระประคองแม่เข้าไปในห้องน้ำ ธีระเดินออกมาแล้วเดินไปหยิบเสื้อมาให้แม่เปลี่ยน เขาเดินเข้าไปช่วยแม่เปลี่ยนเสื้อ
       “มาครับแม่ ผมช่วย”
     
       ธีระหยิบม๊อบมาถูพื้นที่เปียกปัสสาวะของแม่ จินดานั่งมอง
       “แม่สงสารลูกจังเลย ต้องมาเช็ดฉี่เช็ดอึให้แม่” จินดาบอก
       “อย่าพูดอย่างงั้นสิครับแม่ ตอนผมเป็นเด็ก แม่ทำให้ผมเยอะกว่านี้อีก”
       “แต่ตอนนี้ลูกโตแล้วเป็นถึงกัปตันขับเครื่องบิน แต่ต้องมาทำงานบ้านแบบนี้ แม่ไม่ชอบเลย”
       “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมดีใจมากกว่าที่ได้ดูแลแม่ แล้วเที่ยงนี้แม่อยากกินอะไรผมจะออกไปซื้อให้”
       “อะไรก็ได้ลูก แม่กินไม่ค่อยลง”
       “แต่แม่ต้องกินนะครับ แม่จะได้อยู่กับผมไปนาน ๆ”
       จินดาน้ำตารื้น
       “แม่รักลูกนะ”
       “ผมก็รักแม่ครับ”
       เสียงออดดังขึ้น จินดากับธีระชะงัก
       “เดี๋ยวผมไปเปิดประตูก่อน”
       ธีระลุกออกไป จินดามองลูกชายแล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมาด้วยความปลื้มใจ
     
       ธีระเดินมาหยุดหน้าประตู เขาเห็นหนูดียืนหันหลังมองบ้านหลังอื่นอยู่
       “หวัดดีครับ” ธีระทัก
       หนูดีหันมายกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ หนูดีมาสายไปหน่อย พอดีลงรถเมล์ผิดซอยน่ะค่ะ”
       “ไม่เป็นไรครับ เชิญ”
       ธีระเปิดประตูให้หนูดีเดินเข้ามา หนูดีเดินตามธีระเข้าบ้านไป
     
       หนูดีเดินตามธีระเข้ามาในบ้าน จินดานั่งรออยู่
       “คุณหนูดีมาแล้วครับแม่” ธีระบอก
       “สวัสดีค่ะคุณป้า” หนูดียกมือไหว้
       “หวัดดีจ้ะหนูดี” จินดารับไหว้
       “คุณป้าเป็นยังไงบ้างคะ”
       “จะว่าสบายดี เมื่อกี้ก็เพิ่งฉี่ราดไป”
       “อ้าว หรือคะ คุณป้าต้องห้ามกลั้นปัสสาวะนะคะ”
       “ไม่ได้กลั้นหรอกลูก มันอั้นไม่อยู่”
       “แม่อยู่กับคุณหนูดีก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาผ้าไปส่งซัก แล้วก็ซื้ออาหารเที่ยงมาให้” ธีระหันมาถามหนูดี “คุณทานอะไรครับ”
       “อะไรก็ได้ค่ะ”
       “ทานได้ทุกอย่างนะครับ”
       “ค่ะ”
       ธีระยิ้มให้แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าจากตระกร้ามาใส่ถุง ก่อนจะหยิบถังขยะออกมาเพื่อนำไปเททิ้ง หนูดีมอง
       “ขยะไม่ต้องเทหรอกลูก พรุ่งนี้ป้าภาเค้ามาเก็บเอง” จินดาบอกลูกชาย
       “ไม่เป็นไรครับ”
       ธีระเดินออกไป หนูดีถามจินดา
       “แล้วมีใครเจาะดูน้ำตาลให้คุณป้าบ้างรึยังคะ”
       “ยังเลยจ้ะ”
       “งั้นเดี๋ยวหนูเจาะให้นะคะ กระเป๋าอุปกรณ์อยู่ไหนคะ”
       “รู้สึกจะอยู่บนโต๊ะน่ะลูก”
       หนูดีลุกไปหยิบกระเป๋าสำหรับเจาะน้ำตาล พร้อมอุปกรณ์สำลีแอลกอฮอล์มาเจาะวัดระดับน้ำตาลให้จินดา
     
       ธีระยกส้มตำไก่ย่างมาวางบนโต๊ะอาหาร
       “มาครับแม่ กับข้าวเรียบร้อยแล้ว”
       ธีระเข้าไปประคองแม่ให้ลงนั่งที่เก้าอี้ หนูดีเดินออกจากห้องน้ำ
       “ทานข้าวครับ” ธีระบอก
       หนูดีรับคำ “ค่ะ”
       “นี่ราดหน้าปลาเต้าซี่ของแม่”
       ธีระหยิบจานราดหน้าส่งให้ จินดาจะหยิบช้อนแต่ก็ไม่ถนัด
       “มาครับ ผมป้อนดีกว่า”
       ธีระตักราดหน้าป้อนแม่ แล้วหยิบทิชชู่เช็ดปากให้แม่ หนูดีมอง
       “อีกคำนะแม่” ธีระบอก
       ธีระตักราดหน้าป้อนแม่อีก เขาหันมาเห็นหนูดีกำลังมองอยู่
       “ทานเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
       “ค่ะ”
       “อร่อยมั้ยครับแม่” ธีระถาม
       “อร่อยลูก”
       “งั้นกินอีกนะครับ” ธีระป้อนอีก “เย็นนี้กินข้าวต้มปลาจาระเม็ดดีมั้ยแม่ ผมจะไปซื้อให้ที่สะพานเหลือง”
       “ได้ลูก ขอน้ำแม่หน่อย”
       ธีระหยิบน้ำขึ้นมาป้อนให้ แล้วก็ตักอาหารป้อนอีก หนูดีเหลือบมองธีระกับจินดา
     
       จินดานอนหลับอยู่บนเตียงหน้าทีวี หนูดีเดินออกมาที่ห้องรับแขก ส่วนธีระยืนอยู่ที่ระเบียง หนูดีลงไปนั่งที่โซฟา ธีระหันมามองแล้วเดินเข้ามาหา
       “ขอโทษครับคุณหนูดี ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”
       “เรื่องอะไรคะ” หนูดีถาม
       “เป็นไปได้มั้ยครับที่คุณจะมานอนค้างกับแม่ผม”
       หนูดีทำหน้างง
       “ผมหมายถึงว่าบางช่วงผมไม่อยู่ต้องไปบินสามสี่วัน ผมอยากให้มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ตอนกลางคืน”
       “คุณธีจะไปเมื่อไหร่คะ” หนูดีถาม
       “อาทิตย์หน้าผมมีบินไปบรัสเซล วันศุกร์เสาร์อาทิตย์ กลับวันจันทร์ ถ้าคุณไม่มีภาระที่บ้าน ผมจะให้พิเศษอีกวันล่ะพันบาท”
       หนูดีคิด “ก็ได้ค่ะ”
       “งั้นผมให้คุณล่วงหน้าเลย นี่ครับห้าพัน”
       ธีระหยิบเงินจากกระเป๋ามาส่งให้
       “เอาไว้คุณกลับมาแล้วค่อยจ่ายก็ได้ค่ะ”
       “ไม่เป็นไรครับ”
       “ขอบคุณค่ะ” หนูดียกมือไหว้แล้วรับเงิน
       “ผมฝากดูคุณแม่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปธุระ แล้วเย็น ๆ ผมจะซื้อกับข้าวมาให้”
       “ค่ะ”
       ธีระเดินออกไป หนูดีมองเงินในมือด้วยความดีใจ
       “ถ้าให้นอนทุกวันก็ดีสิ เดือนนึงจะได้ตั้งสามหมื่น” หนูดีพูดกับตัวเอง
     
       ไตรตั้นนั่งทำการบ้านอยู่ที่ร้านต้นไม้ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไตรตั้นรับสาย
       “สวัสดีครับ ไตรตั้นรับจัดสวนครับ ... รอเดี๋ยวนะครับ” ไตรตั้นหันไปตะโกนเรียก “แม่ครับ เค้าจะถามเรื่องจัดสวนครับ”
       แดงเดินออกมาจากด้านหลังร้านแล้วมารับโทรศัพท์ในท่าทางที่ดูไม่ค่อยสบายนัก
       “ฮัลโหล ... ค่ะ ...ได้ค่ะ อีกชั่วโมงจะให้คุณกบโทรกลับนะคะ”
       แดงวางสาย
       “แม่ครับ ตั้นอยากกินโกโก้เย็นครับ”
       “ได้ลูก เดี๋ยวแม่ชงให้”
       แดงเดินไปในครัว สักพักเธอก็รู้สึกหน้ามืดและตาพร่ามัว แดงก้าวเดินไปอีกก้าวแล้วก็ล้มลง ไตรตั้นมองด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งเข้ามาหาแม่แล้วเขย่าตัว
       “แม่ แม่ครับ แม่เป็นอะไรครับ” ไตรหันไปเรียกคนในร้าน “พี่พจครับพี่พจช่วยแม่ด้วย”
       ไตรตั้นวิ่งออกไปนอกร้าน จังหวะเดียวกับที่ธีระเดินเข้ามา
       “น้าธีครับ ช่วยแม่ด้วยครับ”
       “แม่เป็นอะไร” ธีระถาม
       “ไม่รู้ครับแม่ล้มลงไป”
       “แล้วแม่อยู่ไหน”
       “อยู่นี่ครับ”
       ไตรตั้นวิ่งนำธีระเข้าไป ธีระวิ่งตามมาก็เห็นแดงนอนอยู่กับพื้น
       “พี่แดง ... พี่แดง” ธีระหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด “ส่งรถพยาบาลมาที่......ด้วยครับ”
       “แม่ครับแม่ แม่ตื่นสิครับแม่”
       ไตรตั้นเขย่าเรียกแดง แต่แดงก็ยังไม่ได้สติ
     
       รถพยาบาลวิ่งมาตามถนน
       แดงนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล กบ ธีระและไตรตั้นอยู่ในห้องกับหมอ
       “เป็นภาวะน้ำท่วมปอดครับ” หมอบอก
       “เกิดจากอะไรครับ” กบถาม
       “เป็นผลข้างเคียงจากการฉายรังสีน่ะครับ”
       “แล้วอันตรายมากแค่ไหนครับ” กบถามต่อ
       “โชคดีที่มาโรงพยาบาลทัน ไม่งั้นก็คงแย่เหมือนกัน หมออยากให้อยู่โรงพยาบาลสองสามวันเพื่อดูอาการนะครับ”
       “ครับ ขอบคุณครับคุณหมอ”
       หมอเดินออกไปจากห้อง กบหันมาบอกธีระ
       “โชคดีนะที่นายมา ไม่งั้นแดงคงแย่”
       “แล้วเด็กที่ร้านไปไหนหมดครับ” ธีระถาม
       “พอดีช่วงนี้งานมันเข้ามาเยอะ พี่เลยเอาคนไปช่วยหมด ไม่คิดว่าแดงจะเป็นอะไร” กบบอก
       “จากนี้ไปผมว่าคงต้องมีคนดูแลใกล้ชิดพี่แดงหน่อยนะพี่”
       “พ่อครับ เมื่อไหร่แม่จะตื่น” ไตรตั้นถาม
       “อีกซักเดี๋ยวนะลูกให้แม่หลับซะหน่อย” เสียงมือถือของกบดังขึ้น “ฮัลโหล ... ครับ ... ครับ เดี๋ยวอีกซักชั่วโมงผมไปดูให้นะครับ” กบวางสายแล้วถอนใจ “ลูกค้าก็ดันมาเร่งงานตอนนี้ ธี พี่ฝากไตรตั้นซักคืนได้มั้ย เดี๋ยวพี่จะออกไปดูงานแล้วคืนนี้พี่จะมาเฝ้าแดงเอง”
       “ได้ครับ”
       “ตั้นจะนอนกับแม่” ไตรตั้นบอก
       “ไปนอนกับคุณยายซักคืนนะลูก พรุ่งนี้พ่อจะไปรับ”
       “แต่ว่า”
       “อย่าดื้อสิลูก ตั้นเป็นเด็กดีไม่ใช่หรือ”
       “ก็ได้ครับ”
       “ฝากด้วยนะธี”
       “ไม่ต้องห่วงพี่กบ” ธีระบอก
       “ให้พ่อหอมที” กบหอมแก้มลูก “อยู่กับน้าธีนะลูก”
       ไตรตั้นรับคำ “ครับ”
       กบเดินออกไป ธีระมองแดงแล้วหันมาบอกไตรตั้น
       “เดี๋ยววันนี้ไปนอนกับคุณยาย ตั้นอย่าบอกคุณยายนะว่าแม่ไม่สบาย”
       “ทำไมบอกไม่ได้ล่ะครับ”
       “เดี๋ยวคุณยายจะเป็นห่วงแม่ แล้วจะไม่สบายไปอีกคนน่ะสิ”
       “ได้ครับ ตั้นจะไม่บอกคุณยาย”
       “ดีมาก”

No comments:

Post a Comment